โรคเบาหวานชนิดที่ 2 คืออะไร? สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาอย่างได้ผล

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 คืออะไร

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 คืออะไร? สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

เรียนรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สาเหตุของโรค อาการเตือน และวิธีการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้ช่วยให้คุณป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานได้ดียิ่งขึ้นนะครับ

1. บทนำเกี่ยวกับโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน (หรือที่เรียกว่า “น้ำตาลในปัสสาวะสูง”) เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติในการเผาผลาญของร่างกาย ทำให้ระดับน้ำตาล (กลูโคส) ในเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง หากไม่ได้รับการตรวจพบและควบคุมอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงต่อหัวใจ ไต ดวงตา และระบบประสาท …

โรคเบาหวานแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

  • เบาหวานชนิดที่ 1: ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้
  • เบาหวานชนิดที่ 2: ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน หรือใช้อินซูลินได้ไม่เต็มที่
  • เบาหวานขณะตั้งครรภ์: เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์เท่านั้น

ในจำนวนนี้ “เบาหวานชนิดที่ 2” พบมากที่สุด คิดเป็นมากกว่า 90% ของผู้ป่วยทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มคนอายุน้อยด้วยเช่นกันครับ

การจำแนกประเภทของโรคเบาหวาน
ในจำนวนนี้ “เบาหวานชนิดที่ 2” พบมากที่สุด คิดเป็นมากกว่า 90% ของผู้ป่วยทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มคนอายุน้อยด้วยเช่นกันครับ

2. เบาหวานประเภทที่ 2 คืออะไร?

เบาหวานประเภทที่ 2 คือภาวะที่ร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ (มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน) หรือบางกรณี ตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอที่จะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลให้น้ำตาลสะสมในกระแสเลือดและเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

ซึ่งต่างจากเบาหวานประเภทที่ 1 (ที่มักเริ่มเกิดในวัยเด็กและเกิดจากภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ตับอ่อน) เบาหวานประเภทที่ 2 มักค่อย ๆ พัฒนาอย่างช้า ๆ และมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิต น้ำหนัก อายุ และพันธุกรรมอย่างใกล้ชิด

3. สาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2

สาเหตุหลักๆ มีดังนี้:

  • เกี่ยวกับกรรมพันธุ์: หากพ่อแม่เป็นเบาหวาน ลูกก็มีความเสี่ยงเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 สูงขึ้น
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ: รับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง, ใยอาหารต่ำ, ขาดการออกกำลังกาย
  • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน: โดยเฉพาะไขมันสะสมรอบเอวและหน้าท้อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ลดความไวของอินซูลิน
  • อายุที่มากขึ้น: ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปจะมีความเสี่ยงมากขึ้น
  • ความเครียดเรื้อรัง นอนหลับไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเช่นกัน

4. อาการเบาหวานชนิดที่ 2 สังเกตได้อย่างไร

อาการของโรคเบาหวานประเภทที่ 2

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 มักเริ่มต้นอย่างเงียบๆ โดยไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรกๆ อาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • รู้สึกกระหายน้ำบ่อย และปัสสาวะบ่อย
  • เหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • สายตามัว เห็นไม่ชัด
  • แผลหายช้า
  • คันผิวหนัง เป็นผื่นหรือติดเชื้อราที่ผิวหนังบ่อยๆ

ทั้งนี้ ในหลายกรณี ผู้ป่วยอาจตรวจพบโรคจากการตรวจสุขภาพประจำปีหรือการตรวจเลือดเท่านั้น

5. เบาหวานชนิดที่ 2 อันตรายหรือไม่?

หากควบคุมไม่ดี โรคเบาหวานชนิดที่ 2 อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหลายประการ ได้แก่:

ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน

  • ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลัน
  • หมดสติหรือโคม่าเนื่องจากความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดสูง

ภาวะแทรกซ้อนระยะยาว

  • ระบบหัวใจและหลอดเลือด: เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองอุดตัน
  • ไตเสียหาย: โรคไตวายจนต้องฟอกไต
  • ตาเสื่อม: เสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็นหรือ ตาบอด จากโรคจอตาเสื่อมเบาหวาน
  • ระบบประสาทเสียหาย: ชา มือ เท้า สูญเสียความรู้สึก หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เท้า

6. วิธีการรักษาและควบคุมโรคเบาหวานชนิดที่ 2

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • รับประทานอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการ: ลดน้ำตาลและแป้งขัดขาว เพิ่มผักใบเขียว ใยอาหาร และโปรตีนไม่ติดมัน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: เช่น เดินเล่น โยคะ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน

การใช้ยา

  • ยาลดน้ำตาลในเลือดชนิดรับประทาน
  • ฉีดอินซูลิน (ในบางกรณี)

การติดตามดูแลสุขภาพ

  • ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองที่บ้าน
  • ตรวจสุขภาพประจำปี: เช่น ตรวจค่า HbA1c ตรวจการทำงานของไต และตรวจสายตา
  • สิ่งสำคัญคือผู้ป่วยต้องปฏิบัติตามแนวทางการรักษา และประสานงานกับแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. การป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2

การป้องกันและรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในโรคเบาหวานประเภท 2

แม้จะมีปัจจัยทางพันธุกรรม แต่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีดังนี้

  • รับประทานอาหารอย่างสมดุล ลดการบริโภคอาหารแปรรูปและขนมหวาน
  • เพิ่มการออกกำลังกายและกิจกรรมทางกายให้มากขึ้น
  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด
  • ตรวจสุขภาพประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง

นอกจากการรับประทานอาหารและออกกำลังกายแล้ว ผู้ป่วยเบาหวานยังสามารถเลือกใช้ Glusure – ผลิตภัณฑ์นมสูตรเฉพาะที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร และเสริมภูมิคุ้มกัน ด้วยส่วนผสมที่อุดมไปด้วยใยอาหาร ค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ และสารอาหารจำเป็น Glusure จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ต้องการทางเลือกโภชนาการที่ดี

ดูเพิ่มเติม: GLUSURE – ผลิตภัณฑ์นมสูตรพิเศษสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อย แต่สามารถควบคุมได้หากผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใส่ใจดูแลสุขภาพ และปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์ การเข้าใจถึงธรรมชาติของโรค สาเหตุ และสัญญาณเตือนจะช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนใกล้ชิดได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดนะครับ