ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขแสดงให้เห็นว่ามีคนไทยมากกว่า 6.5 ล้านคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ คิดเป็นประมาณ 10% ของประชากรทั้งประเทศ
ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นก็คือผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 มากถึงร้อยละ 40 ไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคนี้ ทำให้ได้รับการวินิจฉัยล่าช้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ไตวาย ตาบอด หรือเนื้อเยื่อตายจนต้องตัดแขนขา
1. สาเหตุที่ทำให้โรคเบาหวานในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชี้ให้เห็นปัจจัยสำคัญต่อไปนี้ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้โรคเบาหวานยังคงระบาดในประเทศไทย:
- พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งสูง: คนไทยมักรับประทานขนมหวาน เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และข้าวขาว
- อัตราโรคอ้วนสูง: ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศอาเซียนที่มีอัตราโรคอ้วนและน้ำหนักเกินสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคเบาหวานประเภท 2
- วิถีชีวิตที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหว: โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ผู้คนจำนวนมากไม่ค่อยออกกำลังกาย ส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
- การไม่ตรวจสุขภาพประจำปี: หลายๆ คนมักจะตรวจพบโรคเมื่อมีอาการชัดเจน หมายความว่าโรคได้ลุกลามไปแล้ว
2. ความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2

โรคเบาหวานประเภท 2 ไม่เพียงแต่ลดคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุหลักของ
- โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
- ภาวะไตวายเรื้อรังจำเป็นต้องได้รับการฟอกไต
- จอประสาทตาเสื่อมจนทำให้ตาบอด
- โรคเท้าเบาหวานทำให้เกิดเนื้อตายและต้องตัดขา
หากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม โรคเบาหวานประเภท 2 อาจกลายเป็นภาระที่สำคัญสำหรับบุคคล ครอบครัว และระบบสาธารณสุขของประเทศ
3. การป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเบาหวาน กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ประชาชน
- รักษาการรับประทานอาหารที่ดี: ลดขนมหวาน จำกัดข้าวขาว และเพิ่มผัก ปลา และธัญพืชไม่ขัดสี
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ เช่น การเดินเร็ว การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ เป็นต้น
- การตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ชั่งน้ำหนัก และวัดความดันโลหิต โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
- รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ดี: หลีกเลี่ยงการมีน้ำหนักเกินหรืออ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของโรคเบาหวานประเภท 2
- การสร้างความตระหนักรู้ในชุมชน: มีส่วนร่วมในกิจกรรมและโครงการด้านการศึกษาเพื่อสร้างความตระหนักรู้และป้องกันโรคอย่างจริงจัง
4. อาหารเสริมทางเลือกควบคุมน้ำตาลในเลือด – นมกลูเชอร์ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว ผู้ป่วยโรคเบาหวานในประเทศไทยยังสามารถเลือกดื่มนม Glusure ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอีกด้วย
Glusure ประกอบด้วยสารสกัดคุณภาพสูงจากใบหม่อนหลายชนิด รวมถึง 1-Deoxynojirimycin (DNJ) ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดผ่านสองกลไก ได้แก่ การยับยั้งเอนไซม์อัลฟากลูโคซิเดส และชะลอการดูดซึมกลูโคสจากลำไส้ ซึ่งช่วยให้ร่างกายลดการสะสมน้ำตาล เพิ่มการใช้อินซูลิน และลดความหิว
นอกจากนี้ ไฟบริกซา (Fibryxa) นำเข้าจากญี่ปุ่น เป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่ให้แคลอรีต่ำ แต่มีไฟเบอร์สูงถึง 80% มีประโยชน์ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมน้ำหนัก และลดความอยากอาหาร โปรตีนจากพืชคุณภาพสูงจากอัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน วอลนัท ถั่วเหลือง ฯลฯ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ย่อยง่าย และรักษาสมดุลน้ำตาลในเลือด
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ผลิตภัณฑ์นี้ยังมีส่วนผสมของหญ้าหวาน (Stevia) สารให้ความหวานจากธรรมชาติที่ไม่มีแคลอรี ทำให้รสชาตินมอร่อยและดื่มง่าย นอกจากนี้ หญ้าหวานยังช่วยกระตุ้นการผลิตอินซูลินและลดไขมันในเลือด ผลิตภัณฑ์นี้ยังประกอบด้วยวิตามินนำเข้าจากอินเดีย เช่น วิตามินบี ซีลีเนียม ซิงค์ ฯลฯ ซึ่งช่วยบำรุงระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหาร และดูแลสุขภาพผิว

ด้วยสูตรเฉพาะและส่วนผสมนำเข้าคุณภาพสูง Glusure ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน ปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย
โรคเบาหวาน โดยเฉพาะโรคเบาหวานชนิดที่ 2 กำลังกลายเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่ร้ายแรงที่สุดในประเทศไทย จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมาย
เราควรเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ด้วยการเปลี่ยนแปลงนิสัยการกิน ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อปกป้องตัวเองและลดภาระของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ

