โรคเบาหวาน (หรือที่รู้จักกันในชื่อปัสสาวะหวาน) เป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่พบบ่อยที่สุดในปัจจุบัน สถิติขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งมักออกกำลังกายน้อยและมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
โรคเบาหวานไม่เพียงแต่ลดคุณภาพชีวิตเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมากมาย เช่น โรคไต หัวใจ ตา ระบบประสาท และเท้า ในบทความนี้ เราจะแนะนำวิธีป้องกันโรคเบาหวานที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ทันที
1. โรคเบาหวานคืออะไร? ทำไมการป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ จึงจำเป็น?
โรคเบาหวาน (ปัสสาวะหวาน) คือภาวะที่ร่างกายไม่ผลิตอินซูลินเพียงพอหรือใช้ประโยชน์จากอินซูลินได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง
โรคเบาหวานมี 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่:
- โรคเบาหวานประเภท 1: ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เอง (พบบ่อยในเด็กและวัยรุ่น)
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2: ร่างกายดื้อต่ออินซูลินหรือไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างเหมาะสม (คิดเป็นร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน)
- เบาหวานขณะตั้งครรภ์: เกิดขึ้นในหญิงตั้งครรภ์และมักจะกลับมาเป็นปกติหลังคลอดบุตร แต่จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานประเภท 2 ในภายหลัง
หากไม่ควบคุมโรคเบาหวาน อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ ดังนี้:
- โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลัน (โรคหลอดเลือดสมองตีบ)
- ภาวะไตวายเรื้อรัง
- จอประสาทตาเสื่อมจนทำให้ตาบอด
- โรคเส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ แผลที่ขาหายช้า
- ภูมิคุ้มกันลดลง เสี่ยงติดเชื้อ
ดังนั้นการป้องกันโรคเบาหวานตั้งแต่เนิ่นๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น น้ำหนักเกิน ออกกำลังกายน้อย มีญาติป่วย หรืออยู่ในภาวะเครียดเป็นเวลานาน
2. สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ปัจจัยที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:

- พันธุกรรมและประวัติครอบครัว: หากมีใครในครอบครัวของคุณเป็นโรคเบาหวาน คุณจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้สูงขึ้นอย่างมาก
- พฤติกรรมการกินที่ไม่ดี: การกินขนมหวาน แป้งขัดสี อาหารจานด่วน หรือน้ำอัดลมมากเกินไป อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นและทำให้ภาวะดื้อต่ออินซูลินแย่ลง
- น้ำหนักเกิน โรคอ้วน และการใช้ชีวิตแบบอยู่ประจำที่: การสะสมไขมัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ถือเป็นปัจจัยหลักของภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคเบาหวานประเภท 2
- ความเครียดสะสมและความไม่สมดุลของฮอร์โมน: เมื่อคุณเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
- อายุและการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกสุขภาพ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี โดยเฉพาะผู้ที่ออกกำลังกายน้อย มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานมากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ
3. 10 วิธีป้องกันโรคเบาหวานที่ได้ผลที่สุด
ต่อไปนี้เป็น 10 นิสัยง่ายๆ แต่ได้ผลที่สามารถช่วยป้องกันโรคเบาหวานและส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้ทุกวัน
3.1 รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี
การลดน้ำหนักเพียง 5-10% ของน้ำหนักตัว สามารถลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 ได้อย่างมาก ควรตรวจวัดดัชนีมวลกาย (BMI) และเส้นรอบเอวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับค่าให้เหมาะสม
3.2 รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ – เลือกอาหารที่มีดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำ
อาหารที่มีดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เลือกรับประทานข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ถั่ว ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ

3.3 ลดการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล แป้งขาว และเครื่องดื่มอัดลมสูง
อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น ของหวาน น้ำอัดลม และน้ำผลไม้แปรรูป ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ควรดื่มน้ำเปล่าหรือชาสมุนไพรแทน
3.4 เพิ่มการบริโภคผักใบเขียว ผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ และธัญพืชที่ไม่ขัดสี
กลุ่มอาหารนี้อุดมไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ทำให้คุณอิ่มนานขึ้น และควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
3.5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (อย่างน้อยวันละ 30 นาที)
การเดินเร็ว การปั่นจักรยาน โยคะ หรือการว่ายน้ำสามารถเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดความเสี่ยงของการดื้อต่ออินซูลิน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดตามธรรมชาติ
3.6. นอนหลับให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียดเรื้อรัง
การนอนหลับไม่เพียงพอและความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงทุกคืน และรักษาอารมณ์เชิงบวก
3.7. จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สูบบุหรี่
ทั้งแอลกอฮอล์และยาสูบทำลายตับอ่อน ตับ และหลอดเลือด ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
3.8. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ
การตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้คุณตรวจพบความผิดปกติในระยะเริ่มต้นของการเผาผลาญน้ำตาล ทำให้สามารถป้องกันและรักษาได้ทันท่วงที

3.9. ดูแลและควบคุมความดันโลหิตและไขมันในเลือดไปพร้อมๆ กัน
ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหรือคอเลสเตอรอลสูงมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 การควบคุมปัจจัยทั้งสามนี้สามารถช่วยปกป้องหัวใจและไตได้
3.10. เลือกอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
อาหารเสริมบางชนิดมีสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างปลอดภัย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงหรือเป็นเบาหวาน
4. ทางเลือกการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคเบาหวานโดยธรรมชาติ – Glusure
หากคุณต้องการป้องกันโรคเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีแล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก็มีความสำคัญเช่นกัน
Glusure คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่มีความเสี่ยงสูง นี่คือนวัตกรรมใหม่
ผลิตภัณฑ์นี้ยังประกอบด้วยไฟบริกซา (จากประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นใยอาหารธรรมชาติที่ช่วยควบคุมความอยากอาหาร โปรตีนคุณภาพสูงจากอัลมอนด์ วอลนัท ถั่วเหลือง และสารให้ความหวานจากธรรมชาติอย่างสตีเวีย ผลิตภัณฑ์นี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอย่างครบถ้วน สูตรนี้มีดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รักษาระดับพลังงาน และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน
การป้องกันโรคเบาหวานไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มต้นด้วยขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปี ขั้นตอนเหล่านี้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ถึง 70% อย่างไรก็ตาม การรับประทานกลูชัวร์และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้มีสุขภาพดี จะช่วยให้คุณควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างเป็นธรรมชาติและส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว

