ดัชนีน้ำตาลในเลือดคืออะไร? เท่าไหร่ถึงถือว่าปกติ และทำอย่างไรจึงจะรักษาค่าดัชนีให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาที่น่ากังวลอย่างยิ่ง นั่นคืออัตราการเกิดโรคเบาหวานและระดับน้ำตาลในเลือดสูงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สหพันธ์เบาหวานนานาชาติ (IDF) ระบุว่า ภายในปี พ.ศ. 2567 จะมีผู้ใหญ่ไทย (อายุ 20-79 ปี) ป่วยเป็นโรคเบาหวานประมาณ 6.4 ล้านคน ซึ่งหมายความว่าคนไทย 1 ใน 10 คนมีความเสี่ยงหรือประสบปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สาเหตุหลักมาจากวิถีชีวิตคนเมือง เช่น การบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และการขาดการออกกำลังกาย ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยภาวะก่อนเบาหวานและโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับดัชนีน้ำตาลและวิธีการควบคุมจึงเป็นสิ่งสำคัญ แล้วดัชนีน้ำตาลคืออะไร? อะไรที่เรียกว่าปกติ? และเราควรทำอย่างไรเพื่อรักษาสมดุลในระยะยาว? อ่านบทความนี้

1. ดัชนีน้ำตาลคืออะไร?

น้ำตาลในเลือด (กลูโคส) เป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย สมองและระบบประสาท โดยเฉพาะระบบประสาท ต้องการกลูโคสเกือบทั้งหมดเพื่อการทำงาน ดังนั้น การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุลจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพที่ดี

ดัชนีน้ำตาล (GI) คือตัวเลขที่แสดงถึงความเข้มข้นของกลูโคสในเลือด โดยทั่วไปวัดเป็นมิลลิโมลต่อลิตร หรือมิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ค่านี้ไม่คงที่และเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหาร วิถีชีวิต และสุขภาพโดยรวม

เลือดของเรามีน้ำตาลอยู่ปริมาณหนึ่งเสมอ หากดัชนีน้ำตาลสูงอยู่เสมอ ความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลต่อไต หัวใจ และระบบประสาท

ประเภทของการตรวจน้ำตาลในเลือด ได้แก่:

• น้ำตาลในเลือดแบบสุ่ม
• น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร
• ระดับน้ำตาลในเลือด 1 ชั่วโมงและ 2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร
• น้ำตาลในเลือดผ่านดัชนี HbA1C

ความสำคัญของการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดก็คือช่วยให้คุณทราบระดับน้ำตาลในเลือดของคุณในขณะที่วัด ทำให้แพทย์สามารถประเมินสุขภาพของคุณได้ เพื่อพิจารณาว่าคุณอยู่ในช่วงปกติ มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน หรือเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้วหรือไม่ เพื่อที่แพทย์จะสามารถให้การดูแลและการรักษาที่เหมาะสมได้

2. ระดับน้ำตาลในเลือดปกติควรอยู่ที่เท่าไร?

ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระดับน้ำตาลในเลือดที่ถือว่าดีต่อสุขภาพมีดังนี้:

• ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร: 70 – 99 มก./ดล. (3.9 – 5.5 มิลลิโมล/ลิตร)
• 2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร: น้อยกว่า 140 มก./ดล. (น้อยกว่า 7.8 มิลลิโมล/ลิตร)
• ระดับน้ำตาลในเลือดแบบสุ่ม (ไม่ทราบเวลา): น้อยกว่า 200 มก./ดล. (น้อยกว่า 11.1 มิลลิโมล/ลิตร)

หากค่าที่อ่านได้สูงกว่านี้ แสดงว่าคุณอาจเป็นเบาหวานหรืออยู่ในระยะก่อนเป็นเบาหวาน คุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและขอคำแนะนำด้านสุขภาพโดยเร็วที่สุด

3. วิธีรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

3.1. โภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ

• จำกัดการบริโภคน้ำตาลขัดสีและอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวสูง เน้นผักใบเขียว ผลไม้ไม่หวาน ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไม่ติดมัน
• เพิ่มใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ไขมันไม่อิ่มตัว วิตามินและแร่ธาตุเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สมดุล

3.2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

คุณควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน เช่น การเดินเร็ว โยคะ การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม

3.3. การควบคุมน้ำหนัก

การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจะช่วยลดความเสี่ยงของการดื้อต่ออินซูลินและส่งเสริมการแปลงกลูโคสเป็นพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

3.4. ควบคุมความเครียดและนอนหลับให้เพียงพอ

ความเครียดและการนอนไม่เพียงพอจะเพิ่มฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งอาจนำไปสู่ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ ฝึกสมาธิหรือเทคนิคการผ่อนคลายเพื่อช่วยให้จิตใจสงบและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

3.5. การตรวจสุขภาพประจำปี

ระดับน้ำตาลในเลือดจำเป็นต้องได้รับการตรวจเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักเกิน มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน หรือออกกำลังกายน้อย เพื่อให้ได้รับการดูแลและป้องกันได้อย่างทันท่วงที

4. กลูชัวร์ – สารอาหารเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด

กลูชัวร์ (Glusure) คือผลิตภัณฑ์นมสูตรพิเศษสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานช่วยควบคุมและปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผสมประกอบด้วยสารสกัดจากใบหม่อนช่วยลดการดูดซึมน้ำตาล ไฟบริกซา (Fibryxa) จากประเทศญี่ปุ่น อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ช่วยควบคุมน้ำหนัก และโปรตีนจากพืชคุณภาพสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและระบบย่อยอาหาร ผลิตภัณฑ์นี้ยังประกอบด้วยหญ้าหวาน สารให้ความหวานจากธรรมชาติ ปราศจากแคลอรี ปลอดภัยต่อหัวใจ และวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด (จากประเทศอินเดีย) ที่ช่วยเสริมสร้างระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวม

ด้วยสูตรทางวิทยาศาสตร์ Glusure ไม่เพียงแต่ให้สารอาหารที่สมดุลเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนคู่ใจในการดูแลสุขภาพที่แท้จริงสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย

การเข้าใจและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่าง Glusure จะช่วยให้คุณควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ดูแลสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมั่นใจมากขึ้น